วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

การสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต

การสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตมีหลายวิธี
1. การสืบค้นข้อมูล โดยใช้ www.google.com 
2.การสืบค้นรูปภาพ โดยใช้ www.google.com 
3. การสืบค้นข้อมูล ในรูปแบบ Index Directory 
4.การสืบค้นข้อมูล ในรูปแบบ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ 
5. การสืบค้นข้อมูลแผนที่ออนไลน์ ในรูปแบบ Google Maps 


แหล่งอ้างอิง





http://portal.edu.chula.ac.th/kanapat.a/blog/view.php?Bid=1277092261613583&msite=kanapat.a 


ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

ปรพโยชน์ ของอินเตอร์เน็ต
ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลก่อให้เกิดประโยชน์มากมายได้แก่

1. ด้านการติดต่อสื่อสาร เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือการพูดคุยด้วยการส่งสัญญาณภาพและเสียง

2. เป็นระบบสื่อสารพื้นที่จำลอง (Cyberspace) ไม่มีข้อจำกัดทางศาสนา เชื้อชาติ ระบบการปกครอง กฎหมาย

3. มีระบบการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต- สามารถค้นหาข้อมูลในด้านต่างๆ ได้ผ่านบริการ World Wide Web

4. การบริการทางธุรกิจ เช่น สั่งซื้อสินค้า หรือการโฆษณาสินค้าต่างๆ-

5. การบริการด้านการบันเทิงต่างๆ เช่น การดูภาพยนตร์ใหม่ๆ การฟังเพลง ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การเกมออนไลน์ เป็นต้น
โทษของอินเตอร์เน็ต

โทษของอินเตอร์เน็ต มีหลากหลายลักษณะ ทั้งที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เสียหาย, ข้อมูลไม่ดี ไม่ถูกต้อง, แหล่งซื้อขายประกาศของผิดกฏหมาย,ขายบริการทางเพศ ที่รวมและกระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ต่างๆ
1. อินเตอร์เน็ตเป็นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทำให้การควบคุมกระทำได้ยาก - มีข้อมูลที่มีผลเสียเผยแพร่อยู่ปริมาณมาก

2. ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทำให้การค้นหากระทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

3. เติบโตเร็วเกินไป

4. ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริง ต้องดูให้ดีเสียก่อน อาจถูกหลอกลวง

5. กลั่นแกล้งจากเพื่อนใหม่

6. ถ้าเล่นอินเตอร์เน็ตมากเกินไปอาจเสียการเรียนได้ -

7. ข้อมูลบางอย่างก็ไม่เหมาะกับเด็กๆ

8. ขณะที่ใช้อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้

ที่มา http://www.nrru.ac.th/

การบริการบนอินเตอร์เน็ตและการเข้าถึงการให้บริการอินเตอร์เน็ต

เครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ความบันเทิงไว้จำนวนมหาศาล เปรียบเสมือนกับห้องสมุดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อินเตอร์เน็ต มีกำเนิดจากเหตุผลทางด้านการทหารของประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้สนับสนุนโครงการเครือข่ายที่มีชื่อว่า "อาร์พาเน็ต" อันเกิดจากความร่วมมือ กันระหว่างมหาวิทยาลัยชื่อดัง 4 แห่ง เครือข่ายดังกล่าวก็เป็นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ซึ่งมีประโยชน์มากทั้งทางด้านการศึกษาและการทหาร ภายหลังองค์กรและบริษัทต่างๆ ก็เล็งเห็นประโยชน์ ในการใช้เครือข่ายให้เป็นประโยชน์ จึงได้ขอดำเนินการเชื่อมเครือข่ายของตนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทำให้ขนาดของเครือข่ายขยายขอบเขตจนครอบคลุมทั่วโลกดังที่เป็นอยู่ใน ปัจจุบันและได้เรียกชื่อ เครือข่ายดังกล่าวใหม่ว่า "เครือข่ายอินเตอร์เน็ต" 


ที่มา http://www.thaigoodview.com/node/39367

ความสำคัญของอินเทอร์เน็ตที่มีผลต่อชีวิตประจำวันและการศึกษา

ใช้ในการค้นหาข้อมูลในการทำงาน และมีเทคโนโลยีที่สะดวกในการใช้งานทำให้มีการเรียนรู้หลายอย่างที่ทันสมัยนอกเหนือจากห้องเรียน สามารถนำมาใช้ในด้านการบันเทิงต่างๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น

อินเตอร์เน็ตคืออะไร

 อินเตอร์เน็ต หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (Protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

ภัยร้ายจากโลกไซเบอร์ 5

 ณ ปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้โลกไร้พรมแดน อย่าง อินเตอร์เน็ตนำความสะดวกสบาย และประโยชน์มามากมายสู่มนุษย์ อาทิ การประชุมที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่นั้นๆ เพียงมีระบบ วีดีโอ Conference ก็สามารถประชุมได้แล้ว หรือจะเป็นเรื่องของความรวดเร็วในการก้าวทันโลกยุคข่าวสาร เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วคลิกเข้าเว็บไซต์ก็สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้ รวมถึงความสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อของก็สามารถทำธุรกรรมผ่านตลาดออนไลน์ในโลกไซเบอร์ ได้ 
          “แชท” หรือ ระบบสนทนาผ่านแป้นพิมพ์ คืออีกหนึ่งความสามารถของอินเตอร์เน็ต และเป็นที่นิยมอย่างมาก จนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันภัยที่เกิดจากอินเตอร์เน็ตมีเกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับวิทยาการอันก้าวล้ำเช่นกัน 
          ตัวอย่าง คดีฆ่าหั่นศพหญิงสาว ด้วยน้ำมือฆาตรกรหนุ่มจากปากีสถาน ซึ่งทั้งสองรู้จักกันผ่านการแชท และกรณีเช่นนี้หาได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หากแต่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการล่อลวงไปข่มขืน จากเหตุที่เกิดขึ้น ทำเอาบางกลุ่มชนในสังคมไม่อยากให้มีระบบอินเตอร์เน็ตกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ใหญ่ซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบบ 
          อย่าง “นางสมหมาย เรืองจรูญ” อาชีพค้าขาย เจ้าตัวกล่าวว่าเธอมีลูกสาวชอบเล่นอินเตอร์เน็ตทุกวัน และตัวเธอเองไม่มีความรู้ในเรื่องดังกล่าวเลย 
          “เรามีเพียงปัญญาหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อลูกเท่านั้น เขาอยากได้อะไรก็หาให้ อะไรที่สนับสนุนการศึกษาเขา เพื่อทำให้เขาได้เรียนได้อย่างเต็มที่ ก็ยินดีที่จะหามาให้ลูก” 
          “ คอมพิวเตอร์ก็เป็นของที่เราหาให้เขา จ่ายค่าอินเตอร์เน็ตให้ทุกเดือน ไอ้การที่เขาจะนำไปเล่นแบบที่เกิดปัญหาอย่างในข่าว เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้และก็ไม่มีทางรู้ได้เลย นี่ก็เพิ่งรู้ว่ามันมีอย่างนี้ด้วย มีการหาคู่ของวัยรุ่นทางอินเตอร์เน็ตด้วย พอรู้ก็ตกใจเหมือนกัน 
          ใจเราก็ไม่อยากให้เขาไปเล่นเลย แต่ก็ห้ามไม่ได้ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างนี่เราก็หามาให้เขาได้ใช้ แต่เมื่อมันเป็นดาบสองคม อันนี้ก็จนปัญญา ก็หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่นั่นแหละห่วงเขา คงต้องขึ้นอยู่กับลูกว่าเขาจะเลือกอย่างไร เราเลี้ยงเขาได้แค่ตัว ทำได้แค่ดูแลส่งเสีย และก็เป็นห่วงในสภาพสังคมร้ายๆ ที่มีอยู่ทุกวันนี้ ไม่อยากให้อะไรที่มันไม่ดีเกิดกับลูกเรา” 
          นั่นคือความรู้สึกจากปากของผู้ปกครองซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของอินเตอร์เน็ต มีเพียงสิ่งเดียวก็คือห่วงความปลอดภัยของบุตรหลานในขณะที่ตัวของนักศึกษาที่มีโอกาสได้ใช้เทคโนโลยีทันสมัยอย่างที่ว่าบอกภัยที่เกิดขึ้นจากการแชทเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ “โบ ณัฐรินีย์ พาทีไพเราะ” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้า เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่คิดเช่นนั้น 
          โดยโบกล่าวว่าทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักศึกษา อย่างในเรื่องของการค้นคว้าหาข้อมูล 
          “โบเป็นคนหนึ่งที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำทั้งใช้ทำงาน หรืออยากรู้อะไรก็เข้าไปค้นหาดู แล้วก็ใช้แชทกับเพื่อน โบคิดว่ามันไม่เปลืองเงินค่าโทรศัพท์ดีออก ขณะเดียวกันมันก็เป็นดาบสองคมจริงๆ ก็ตามข่าวที่ออกมานั่นล่ะเวลาโบแชทกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอตัวจริง ก็จะมีขอบเขตของตัวเอง คือเราไม่มีทางรู้ว่าคนที่เราแชทด้วยนิสัยเป็นอย่างไร คือการแชทจะพิมพ์ข้อความอะไรก็ได้ โดยที่ไม่มีอะไรบ่งบอกได้ว่าคนๆ นั้นนิสัยใจคอเป็นอย่างไร ทางที่ดีที่สุด เราต้องป้องกันตัวเอง เวลาแชทก็เอาแค่แลกเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติกันเท่านั้น” 
          นอกจากนี้ โบยังให้ความเห็นว่าคนที่ชอบแชทกับคนที่ไม่รู้จักเป็นเวลานาน และชอบที่จะแชทกับคนที่ไม่รู้จัก หลายๆ คน น่าจะเป็นคนขี้เหงา ก็เลยรู้สึกดีกับการสนทนาผ่านทางคอมพิวเตอร์ 
          “คนที่เป็นอย่างนั้น คนรอบข้างนี่ล่ะสำคัญต้องช่วยกัน ช่วยกันดูแลวิธีนี้น่าจะเป็นการป้องกันที่ดี เพื่อไม่เปิดช่องทางให้เกิดอาชญากรรมอย่างที่เกิดขึ้น อย่างโบเอง คุณแม่คอยเตือนและดูแล ยิ่งพอเห็นข่าวในทีวีว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้นะ เพราะอินเตอร์เน็ต คุณแม่ก็เข้ามาเตือนและสอนประจำเลยค่ะ”--จบ-- 
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ภัยร้ายจากโลกไซเบอร์ 4

  1. ใบแจ้งราคาสินค้า (ปลอม) ถ้าได้รับข้อความอีเมล์แจ้งให้เปิด และพิมพ์ "ใบแจ้งราคาสินค้า" ที่ได้แนบไฟล์มานั้นมันคือ โทรจัน ซึ่งตัวล่าสุดที่พบคือหนอนไวรัส WORM_OTORUN.C
  2. โทรจันที่มาพร้อมใบรับสินค้า (ของปลอม) อีเมล์จากผู้จัดส่งสินค้ายอดนิยมซึ่งแจ้งว่าไม่สามารถส่งมอบของให้ผู้รับได้ พร้อมแนบไฟล์ข้อมูลที่ดูเหมือนเป็นใบแจ้งหนี้ แต่จริงๆ แล้วเป็นข้อความสแปมที่จะล่อลวงผู้ใช้ให้ติดตั้งโทรจันลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
  3. อีคอมเมิร์ซฟิชชิ่ง อีเบย์(eBay) ร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ฮิตติดอันดับทั้งทางซื้อขาย และการขโมยข้อมูลของผู้ใช้เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทางการเงิน
  4. ข้อมูลส่วนบุคคล บัตรของขวัญ และโปรโมชัน (ของปลอม) ผู้ใช้ที่ขอบค้นหาของฟรีหรือโปรโมชั่นพิเศษบนเว็บนั้นเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดย เว็บไซต์จะให้กรอกแบบสำรวจปลอมก่อนถูกที่จะขโมยข้อมูลลับหรือข้อมูลส่วนตัวนั้นไป
  5. เว็บไซต์สุดฮิต เป้าหมายหลักของการติดเชื้อคือเชื่อว่าเว็บไซต์นั้นน่าจะปลอดภัยและน่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีการเข้าชมสูง ฯลฯ
  6. ผลการค้นหาแหล่งช้อปปิ้งช่วงคริสต์มาส (ที่เป็นอันตราย) ภัยคุมคามซึ่งเป็นผลของการค้นหาคำว่า "Christmas gift shopping" ถูกพบว่านำไปสู่มัลแวร์หลากหลายชนิดที่เป็นอันตรายเช่น มัลแวร์ ฟิชชิ่งไซต์ ยูอาร์แอลอันตราย
  7. โฆษณามัลเแวร์ (Malvertisements) มักใช้โฆษณาและข้อเสนอเลียนแบบโฆษณาของจริง เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ โดยอาศัยความเชื่อใจของผู้ซื้อผ่านทางเว็บไซต์ยอดนิยม เ่ช่น Google MySpace เป็นต้น
  8. บัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ (อี-การ์ด) อาชญากรไซเบอร์มักจะใช้บัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีการ์ดเพื่อล่อลวงเหยีื่อให้คลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายในข้อความสแปม
  9. ไซต์การกุศลจอมปลอม ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น เหตุการ์แผ่นดินไหว ไฟป่า น้ำท่วม ล้วนถูกอาชญากรไซเบอร์นำมาใช้ ประโยชน์เพื่อหลอกลวงให้รู้สึกอยากทำบุญและต้องการบริจาค อีกทั้งยังต้องสูญเสียเงินหรือข้อมูลที่เป็นความลับแถมไปอีกด้วย
  10. ภัยลวงนักล่าของถูก อาชญากรไซเบอร์จะใช้ส่วนลด และโปรโมชั่นเพื่อหลอกล่อเหยื่อให้คลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย หรือใส่ข้อมูลที่เป็นความลับของตนลงในเว็บไซต์หลอกลวง